การเกิดน้ำบาดาล ความเป็นมาของน้ำบาดาล
การเกิดของน้ำบาดาล
บนพื้นผิวโลกของเรานั้นมีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เป็นภูเขาสูง หุบเขา ที่ราบระหว่างภูเขา ทะเลทราย ที่ราบสูง ที่ราบลุ่มน้ำ ที่ราบชายฝั่งทะเล ไปจนถึงพื้นที่เกาะ สภาพการดำเนินชีวิตและกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ในแต่ละพื้นที่ก็ล้วนแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือต้องพึ่งพาอาศัยน้ำในการดำรงชีวิตโลกของเรานั้นมีน้ำถึง 2 ใน 3 ประกอบไปด้วย “น้ำฟ้า หรือ น้ำในบรรยากาศ (Atmospheric water) ที่อยู่ในรูปของ ไอน้ำ เมฆ หมอก เมื่อกลั่นตัว ก็จะตกลงมาสู่พื้นดินในรูปของน้ำฝนหรือหิมะ กลายเป็น “น้ำผิวดิน (Surface water)” อันได้แก่ แม่น้ำ ลำธาร ห้วย หนอง คลอง บึง ทะเล และมหาสมุทร น้ำบางส่วนจะซึมลงสู่ใต้ดิน และถูกกักเก็บไว้ใน ชั้นดิน ชั้นหิน เป็น “น้ำใต้ดิน (Subsurface water หรือ น้ำบาดาล (Groundwater)” ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่มองไม่เห็น (Invisible resource) แต่สามารถพัฒนาขึ้นมาใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ความสัมพันธ์ของน้ำทั้ง 3 ชนิดนี้ เรียกว่า “วัฏจักรของน้ำ (Hydrologic cycle)”ชั้นน้ำบาดาลปลอมเมื่อมีน้ำฝนซึมผ่านลงมาจากผิวดิน น้ำส่วนหนึ่งจะถูกกักเก็บไว้เหนือชั้นดินเหนียวนี้ แทรกตัวอยู่ตามช่องว่างระหว่างเม็ดตะกอน โดยเราจะเรียกบริเวณนี้ว่า “ชั้นหินให้น้ำปลอม” ซึ่งปกติแล้ว ชั้นหินให้น้ำปลอมจะมีขนาดเล็ก จึงกักเก็บน้ำไว้ได้ไม่มาก เมื่อสูบน้ำมาใช้ได้ไม่นานน้ำก็จะหมดไป ต้องรอน้ำฝนซึมลงมาเพิ่มเติมใหม่ ถัดลึกจากชั้นหินให้น้ำปลอมลงไป จะพบชั้นหินให้น้ำไม่มีแรงดัน ชั้นหินให้น้ำนี้จะไม่มีชั้นหินกันน้ำปิดทับอยู่ หากเราเจาะบ่อบาดาลลงไป ระดับน้ำในบ่อนั้นจะมีระดับเดียวกับระดับน้ำบาดาลรอบๆ บ่อ แต่เมื่อใดก็ตามที่ชั้นหินให้น้ำถูกขนาบด้วยชั้นหินกันน้ำทั้งด้านบนและด้านล่าง จะทำให้น้ำบาดาลและชั้นหินให้น้ำนี้อยู่ภายใต้แรงดันที่มากกว่าแรงดันบรรยากาศ จึงเรียกว่าชั้นหินให้น้ำมีแรงดัน ถ้าเราเจาะบ่อบาดาลลงไปถึงชั้นหินให้น้ำนี้ แรงดันที่มีอยู่ จะดันให้น้ำมีระดับสูงขึ้นไปอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งในบ่อ ซึ่งหากระดับแรงดันของน้ำบาดาลในชั้นหินให้น้ำนั้นสูงมาก น้ำในบ่อก็จะพุหรือพุ่งขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องมีการสูบปริมาณน้ำที่ถูกกักเก็บหรือปล่อยออกมาจากชั้นหินให้น้ำในแต่ละพื้นที่ จะมีความมากน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปร่าง ขนาดของเม็ดตะกอน การคัดขนาดของเม็ดตะกอน ความหนาของชั้นตะกอน และการวางตัวของชั้นตะกอน รวมทั้ง โครงสร้าง รอยแตก รอยแยก ถ้ำ และโพรงในหิน
น้ำบาดาลในแหล่งหนึ่งๆ อาจต้องใช้เวลาในการกักเก็บสะสมอย่างต่อเนื่องนับร้อยนับพันปีหรืออาจจะเป็นหมื่นปี กว่าจะไหลซึมผ่านชั้นดินชั้นหินลงมาถึงแหล่งกักเก็บได้ ลักษณะการไหลซึมเช่นนี้เปรียบเสมือนการกรองโดยธรรมชาติ จึงทำให้น้ำบาดาลเป็นน้ำที่สะอาด ปราศจากสารแขวนลอย สารอินทรีย์เคมี และเชื้อโรคต่างๆ ไม่มีกลิ่นที่น่ารังเกียจ แต่อย่างไรก็ตาม ขณะที่น้ำไหลผ่านไปตามชั้นดินชั้นหินนั้น อาจมีการละลายเอาแร่ธาตุเข้ามาปะปน รวมทั้งถูกปนเปื้อนด้วยน้ำที่มีคุณภาพด้อยกว่า หรือสารเคมีที่เกิดการรั่วซึมจากผิวดินในบริเวณนั้น ทำให้คุณภาพของน้ำบาดาลเปลี่ยนไปหากมีของเสียและน้ำเสียจากแหล่งชุมชน จากโรงงานอุตสาหกรรม การทำการเกษตรที่ใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลงและสารเคมีต่าง ๆ และการทำเหมืองแร่ ที่ทิ้งลงสู่พื้นดินหรือแม่น้ำโดยตรงเหล่านี้จะซึมลงไปใต้ดินและไหลซึมลงสู่ชั้นน้ำบาดาล ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาการปนเปื้อนของน้ำบาดาลขึ้น และหากเรานำน้ำบาดาลที่มีสารปนเปื้อนดังกล่าวมาใช้ ก็จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมถึงถ้าเราได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.รับเจาะบาดาล.com
บริการรับเจาะบาดาลในพื้นที่
– บริการขุดเจาะบาดาล ทำน้ำประปาใช้ภายในบ้าน
– รับปรึกษางานน้ำบาดาลทำระบบประปาของโครงการบ้านจัดสรร โรงแรม รีสอร์ท
– การช่างขุดเจาะบาดาลสำหรับทำการเกษตร นาข้าว พืชผัก ไร่ผลไม้ สวนยางพารา มันสัปหลัง อื่น
– เจาะบาดาล หาน้ำใช้ให้โครงการ ปศุสัตว์ ฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ และอื่นๆ
– รับสำรวจหาแหล่งน้ำบาดาล ขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล ให้คำปรึกษาทุกพื้นที่ ออกแบบพัฒนาจัดหาแหล่งน้ำให้คุณเพื่ออนาคต
– ติดตั้งปั้มต่างๆ เป่าบ่อ ล้างบ่อ ซ่อมแซมบ่อ ราคาเป็นกันเอง
– ให้คำแนะนำปัญหาจากน้ำบาดาล
– บริการทั้งงานเล็ก งานใหญ่
– เจาะแล้วไม่ได้น้ำเราไม่คิดเงิน ในบางพื้นที่
ทำไมต้อง เจาะบาดาลกับเราช่างเจาะบาดาล
1. เรามีทีมช่างเจาะบาดาลที่เป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์ มากกว่า 20 ปี
3. เรามีอุปกรณ์รับเจาะบาดาลที่ทันสมัย
4. เรามีการวิเคราะห์หน้างานก่อนปฎิบัติงานจริง
5. เจาะแล้วไม่ได้น้ำเราไม่คิดเงิน ในบางพื้นที่
การเจาะบ่อน้ำบาดาลใน
นั้นต้องคำนึงถึงสภาพทางธรณีวิยาเป็นหลัก เมื่อเรารู้สภาพทางธรณีวิทยาแล้วเราก็จะสามารถกำหนดเครื่องเจาะได้ ว่าจะใช้เครื่องเจาะชนิดใดและต้องเจาะลงไปลึกเท่าไหร่ถึงจะเจอชั้นน้ำบาดาล
เครื่องเจาะน้ำบาดาลในปัจจุบันนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆดังนี้คือ









