ความรู้เรื่องการดีดบ้าน
การดีดบ้าน หรือการยกบ้าน หรือเลื่อนบ้าน คือวิธีที่ช่างนิยมนำมาปรับปรุงช่วยยกระดับบ้านที่ต่ำให้สูงขึ้นนเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินภายใน
หากพูดถึงการเตรียมงบประมาณ ราคาดีดบ้านนั้นค่อนข้างสูง โดยมีการประเมินราคาดีดบ้านไว้ว่าเทียบเท่ากับการสร้างบ้านใหม่ทั้งหลังสตูลทีเดียว แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหากคิดย้อนไปถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงน้ำท่วมครั้งใหญ่ครั้งนั้น ซึ่งบางบ้านอาจจะเลือกซื้อบ้านใหม่หรือสร้างบ้านใหม่ทั้งหมด แต่บางบ้านก็มองว่าโดยรวมโครงสร้างของบ้านก็ยังมีสภาพที่ดีอยู่ การดีดบ้านจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นำมาใช้ในการซ่อมแซมบ้าน
การดีดบ้าน หากไม่วางแผนการประเมินโครงสร้างของบ้านให้ดี อาจทำให้เกิดความเสียหายมากเกินคาดได้ในภายหลัง สิ่งสำคัญคือแม่แรงต้องสามารถรับน้ำหนักบ้านได้ดี รอกยกต้องได้มาตรฐาน และหัวใจสำคัญที่สุดคือความเชี่ยวชาญของช่างดีดบ้าน ซึ่งก็รวมทั้งผู้รับเหมา ช่างก่อสร้างและวิศวกร
หลักการดีดบ้าน ต้องตรวจเช็คการติดตั้งของอุปกรณ์ตามจุดต่างๆ รวมทั้งจุดที่จะยกบ้านขึ้นสูงว่ายึดไว้กับตัวบ้านเรียบร้อยทุกจุดดีแล้วหรือไม่ เมื่อถึงเวลาจึงจะสามารถยกบ้านหรือดีดบ้านขึ้นได้พร้อมกันทุกจุด และเมื่อดีดบ้าน หรือยกบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรเช็คระดับความสูงและระดับของฐานว่ายกขึ้นมาสูงอยู่ในระดับที่ต้องการหรือไม่ หากยังไม่ได้ตามที่ต้องการ ควรแก้ให้เรียบร้อยก่อนจะเชื่อมรากฐานเสริมความเเข็งแรงให้เสาใหม่ยึดติดแน่นตามที่วางแผนไว้ จึงจะปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัยมากที่สุด
ข้อควรระวังก่อนดีดบ้าน
ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจ้างผู้รับเหมา เจ้าของบ้านควรศึกษาวิธีการและข้อควรระวังในการดีดบ้านให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อที่จะสามารถตรวจเช็คการทำงานของช่างผู้รับเหมาเพื่อให้บ้านเกิดความปลอดภัยมากที่สุด โดยข้อควรระวังก่อนดีดบ้านมีทั้งหมด 7 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. ศึกษาและตรวจสอบสภาพบ้านให้ดี ขั้นตอนแรกและเรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการดีดบ้านคือการประเมินโครงสร้างของบ้าน ว่าสามารถยกระดับได้มากน้อยแค่ไหน มีจุดผุกร่อนส่วนไหนของบ้านบ้างหรือไม่
2. วางแผนงบประมาณและประเมินราคาดีดบ้าน บางครั้งเจ้าของบ้านมักคิดว่าการซ่อมจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายพอ ๆ กับการรื้อสร้างใหม่ ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป สำหรับการดีดบ้านโดยส่วนใหญ่ เจ้าของบ้านจะต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อยราวๆ 1 แสนบาทเป็นอย่างต่ำเพราะความผันผวนของราคาจะขึ้นอยู่กับสภาพความยากง่ายของการดีดบ้านแต่ละหลังนั่นเอง
3. ควรขออนุญาตดำเนินการให้ถูกต้อง ตามกฎหมายแล้วการดีดบ้านถือเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของอาคาร จึงเป็นเหตุผลที่เจ้าของบ้านควรขออนุญาตตามขั้นตอนการดัดแปลงอาคารในเขตที่อยู่อาศัยให้เรียบร้อย เพราะในระหว่างดำเนินการอาจจะสร้างการรบกวนหรือเกิดความเสียหายให้กับผู้อยู่ใกล้เคียงได้ ซึ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือวิศวกรและผู้คุมงานทั้งหมด
4. คำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก หลายครั้งที่การก่อสร้างหรือซ่อมแซมบ้าน อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นอันตรายที่เกิดกับช่างก่อสร้างเอง หรือในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดก็อาจจะเป็นการถล่มลงมาทั้งหลัง ดังนั้นควรใช้บริษัทที่มีวิศวกรควบคุมงาน และมีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานในการดีดบ้านมากที่สุด
5. การดีดบ้านอาจทำให้โครงสร้างบ้านเปลี่ยนไป การดีดบ้านเป็นการยกระดับบ้านให้สูงขึ้น ดังนั้นเจ้าของบ้านจะต้องเตรียมใจ และทำความเข้าใจไว้แล้วว่าโครงสร้างบ้านจะไม่เหมือนเดิม โดยอาจจะต้องมีการเพิ่มบันไดเข้าไป
6. วิศวกรต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การเลือกวิศวกรมาวางแผนโครงสร้างและประเมินการซ่อมแซมเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหากการวางแผนผิดพลาด บ้านทั้งหลังอาจจะเสียหาย และเจ้าของบ้านอาจจะต้องเสียเงินเพื่อการซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง
7. ตั้งรับปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการดีดบ้าน เนื่องจากตัวบ้านจะถูกยกระดับให้สูงขึ้น จึงต้องมีการเพิ่มบันไดเข้าไปให้เหมาะสมต่อการใช้งานของผู้อยู่อาศัย ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุ และในขณะที่ช่างทำการดีดบ้าน ต้องทำการตัดน้ำและไฟก่อน ดังนั้น หลังจากซ่อมแซมเสร็จแล้วจะต้องมีการเดินสายใหม่ทั้งหมดซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน และต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาได้ในภายหลัง
หลังจากได้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นว่าการดีดบ้านคืออะไร หลักการทำงานเป็นอย่างไร และมีข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษบ้าง ผู้อ่านน่าจะเห็นภาพมากขึ้นว่าการดีดบ้านเป็นกระบวนการซ่อมแซมบ้านที่ค่อนข้างสร้างผลกระทบ อีกทั้งยังละเอียดอ่อนมาก เพราะต้องวางแผนโครงสร้างบ้านใหม่ทั้งหลัง ผู้รับเหมา ช่าง และวิศวกรต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมาก รวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ต้องได้มาตรฐานและสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
การให้ความสำคัญในการวางแผนทุกขั้นตอนโดยละเอียดตั้งแต่แรกจะช่วยป้องกันอันตรายได้อย่างรอบคอบที่สุด เพราะถ้าหากวางแผนผิดพลาดหรือคำนวณคลาดเคลื่อนไปเพียงเล็กน้อย อาจสร้างผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้านทั้งหลัง กระทบทั้งบ้านที่อยู่อาศัย และอาจจะสร้างผลกระทบต่อบ้านและอาคารรอบข้างได้อีกด้วย เนื่องจากการซ่อมแซมด้วยการดีดบ้านนี้คือการยกระดับของพื้นบ้านทั้งหมด ดังนั้น การดีดบ้านจึงจำเป็นต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเพื่อการดีดบ้านที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยสูงสุด
3 เหตุผลที่เราควรยกบ้านหรือดีดบ้าน
ปัญหาเรื่องบ้าน ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน หลาย ๆ ครอบครัวอาจแก้ปัญหาด้วยการขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่นแทน
แต่ในความเป็นจริงและโดยส่วนใหญ่แล้ว เราไม่สามารถย้ายบ้านกันได้ง่ายขนาดนั้น เพราะถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ต้องนำมาขบคิดกันอย่างยาวนาน ดังนั้น
หากคุณประสบปัญหา 3 เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ การยกบ้านอาจเป็นวิธีการแก้ปัญหาหรือเป็นทางออกที่ดีสำหรับคุณและครอบครัวได้
1.ยกบ้านเพื่อให้ระดับพื้นสูงเท่าระดับถนน
เป็นฝันร้ายที่อยู่มาวันหนึ่ง บ้านของเราก็ต้องมาตกอยู่ในสภาพที่ต่ำกว่าระดับถนนหน้าบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเกิดจากการขยายถนนของทางการ และเราก็ไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ
ได้เลย ดังนั้นเราต้องหาวิธีการแก้ไข หากจะขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น ย่อมสามารถทำได้ แต่ใครจะมาซื้อ? เพราะก็ต้องเจอปัญหาเดียวกันแน่ ๆ วิธีการแก้ปัญหาที่สามารถทำได้และ
ไม่ยากจนเกินไปก็คือดีดบ้านขึ้นมา เพื่อให้พื้นบ้านอยู่ในระดับสูงกว่าถนนเล็กน้อย อาจมีความยุ่งยากเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็น้อยกว่าการขนของย้ายบ้านออกไปอยู่ที่อื่นแน่นอน
2.ยกบ้านให้สูงลอยเพื่อหนีน้ำท่วม
ภัยธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หากอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุก็คือ “น้ำท่วม” ซึ่งปัจจุบันพื้นที่อาศัยจะถูกน้ำท่วม น้ำขังอยู่เป็นจำนวนมาก
และยังมีความเสี่ยงต่อความเสียหายของตัวบ้านและทรัพย์สินด้วย เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการยกบ้านให้สูงขึ้นอย่างน้อย 1.5 เมตรหรือมากกว่านั้นก็ย่อมได้
เพื่อลดความเสียหายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการยกบ้านนี้ ถูกนำมาใช้มากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวมาอย่างยาวนาน และในปัจจุบันก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วย
3.ยกบ้านจาการทรุดตัวของฐานราก
ฐานรากเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างบ้าน เพราะต้องใช้รับน้ำหนักของตัวบ้านทั้งหมด สิ่งสำคัญที่ต้องแข็งแรงให้มากพอก็คือ เสาเข็มซึ่งเป็นส่วนของโครงสร้างที่อยู่ใต้ดิน
หากเสาเข็มของบ้านเกิดการทรุดตัวลง จะทำให้ระดับพื้นของตัวบ้านไม่เท่ากัน สิ่งที่จะตามมาก็คือ กำแพงบ้านจะมีเริ่มมีรอยร้าวเป็นแนวเฉียง และตัวบ้านก็จะเริ่มทรุดเอียง
ดังนั้นเจ้าของบ้านควรหมั่นสังเกตรอยร้าวรอบ ๆ ตัวบ้านอย่างสม่ำเสมอ แต่หากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้ว วิธีการอย่างหนึ่งที่จะแก้ปัญหาได้ดีก็คือ การรับดีดบ้าน ซึ่งจะทำหลังจากที่เสริมเสาเข็มแล้ว
เพราะจะต้องมีการตัดตอม่อของอาคารเดิมออก โดยจะมีการถ่ายน้ำหนักของอาคารลงสู่เสาเข็มใหม่ เพื่อสร้างฐานรากของบ้านหรืออาคารให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง การแก้ปัญหาด้วยวิธีการยกบ้านนี้
จะสามารถเพิ่มความแข็งแรงของพื้นบ้านในระยาวได้เป็นอย่างดี
รับดีดบ้านอำเภอมะนัง
รับดีดบ้านนิคมพัฒนา
รับดีดบ้านปาล์มพัฒนา
รับดีดบ้านอำเภอควนกาหลง
รับดีดบ้านควนกาหลง
รับดีดบ้านทุ่งนุ้ย
รับดีดบ้านอุไดเจริญ
รับดีดบ้านอำเภอควนโดน
รับดีดบ้านควนสตอ
รับดีดบ้านควนโดน
รับดีดบ้านย่านซื่อ
รับดีดบ้านวังประจัน
รับดีดบ้านอำเภอทุ่งหว้า
รับดีดบ้านขอนคลาน
รับดีดบ้านทุ่งบุหลัง
รับดีดบ้านทุ่งหว้า
รับดีดบ้านนาทอน
รับดีดบ้านป่าแก่บ่อหิน
รับดีดบ้านอำเภอท่าแพ
รับดีดบ้านท่าเรือ
รับดีดบ้านท่าแพ
รับดีดบ้านสาคร
รับดีดบ้านแป-ระ
รับดีดบ้านอำเภอละงู
รับดีดบ้านกำแพง
รับดีดบ้านน้ำผุด
รับดีดบ้านปากน้ำ
รับดีดบ้านละงู
รับดีดบ้านเขาขาว
รับดีดบ้านแหลมสน
รับดีดบ้านอำเภอเมือง
รับดีดบ้านคลองขุด
รับดีดบ้านควนขัน
รับดีดบ้านควนโพธิ์
รับดีดบ้านฉลุง
รับดีดบ้านตันหยงโป
รับดีดบ้านตำมะลัง
รับดีดบ้านบ้านควน
รับดีดบ้านปูยู
รับดีดบ้านพิมาน
รับดีดบ้านเกตรี
รับดีดบ้านเกาะสาหร่าย
รับดีดบ้านเจ๊ะบิลัง






